พื้นฐานการทำงานของไฟล์
การประมวลผลแฟ้มข้อมูลในภาษา C (data file processing in C)
โดยปกติแล้วผู้เขียนโปรแกรมเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูลในภาษา C จะมีความต้องประมวลผลแฟ้มข้อมูลอยู่ 3 แบบ คือ
1) การบันทึกข้อมูลในแฟ้มข้อมูล (write data into file)
2) การอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มข้อมูลขึ้นมาใช้งาน (read data from file)
3) การเพิ่มข้อมูลลงไปในแฟ้มข้อมูล (append data into file)
1. การบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล (write data into file) มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแฟ้มข้อมูลด้วยคำสั่ง fopen( ) ตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล (file name) พร้อมกับระบุ mode ของการบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มเป็น “w”
2. บันทึกข้อมูลลงในแฟ้มโดยใช้ฟังก์ชัน putc( ) หรือ fprintf( ) หรือ fwrite( ) บันทึกข้อมูลลงแฟ้ม ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลที่ต้องการบันทึกลงแฟ้มดังนี้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการบันทึกเป็นตัวอักขระตัวเดียว (single character) ให้ฟังก์ชัน putc( ) เพราะสามารถบันทึกตัวอักขระตัวเดียวได้ดี
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการบันทึกเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม (integer) หรือตัวเลขจำนวนทศนิยม (floationg point) หรือสตริง (strings) ให้ใช้ฟังก์ชัน fprintf( ) เพราะสามารถจัดรูปแบบข้อมูลที่บันทึกได้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการบันทึกเป็นข้อมูลแบบโครงสร้าง (structures) หรือตัวแปรชุด (arrays) ให้ใช้ฟังก์ชัน fwrite( ) เพราะสามารถกำหนดเนื้อที่และจำนวนครั้งของการบันทึกข้อมูลได้
3. หลังจากบันทึกข้อมูลลงแฟ้มเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้คำสั่ง fclose( ) ปิดแฟ้มข้อมูลทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อมูลควรระวังเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลลงแฟ้ม
ฟังก์ชัน fopen( ) เมื่อใช้ mode “w” เป็นการเปิดแฟ้มข้อมูลเพื่อบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มเท่านั้น ถ้าเป็นแฟ้มข้อมูลเก่าที่เคยเก็บข้อมูลไว้แล้ว จะมีผลทำให้ข้อมูลทั้งหมดในแฟ้มข้อมูลเก่า ถูกลบทิ้งไปโดยอัตโนมัติ แล้วสร้างแฟ้มข้อมูลใหม่ขึ้นมาแทนที่
2. การอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มข้อมูล (read data from file) มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแฟ้มข้อมูลด้วยคำสั่ง fopen( ) ตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล พร้อมกับระบุ mode ของการบันทึกข้อมูลลงแฟ้มเป็น “r”
2. อ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มโดยสามารถใช้ฟังก์ชัน getc( ) หรือ fscanf( ) หรือ fread( ) อ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลที่ต้องการอ่านขึ้นจากแฟ้มดังนี้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการอ่านขึ้นจากแฟ้มเป็นตัวอักขระตัวเดียวให้ใช้ฟังก์ชัน getc( ) เพราะสามารถอ่านข้อมูลตัวอักขระตัวเดียวได้ดี
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการอ่านขึ้นจากแฟ้มเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม หรือตัวเลขจำนวนทศนิยม หรือสตริงให้ใช้ฟังก์ชัน fscanf( ) เพราะสามารถจัดรูปแบบข้อมูลที่อ่านขึ้นจากแฟ้มได้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการอ่านจากแฟ้ม เป็นข้อมูลแบบโครงสร้าง หรือตัวแปรชุดให้ใช้ฟังก์ชัน fread( ) เพราะสามารถกำหนดขนาดเนื้อที่และจำนวนครั้งของการอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มได้
3. นำข้อมูลที่อ่านขึ้นจากแฟ้มไปประมวลผล เช่น พิมพ์ค่าออกทางจอภาพ หรือนำไปคำนวณก็ได้
4. หลังจากประมวลผลข้อมูลที่ได้จากแฟ้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้คำสั่ง
fclose( ) ปิดแฟ้มข้อมูลทุกครั้งเพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้ม
ในฟังก์ชัน fopen( ) เมื่อใช้ mode “r” เป็นการเปิดแฟ้มข้อมูล เพื่ออ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มข้อมูลอย่างเดียว ไม่สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมลงไปในแฟ้มได้
3. การเพิ่มข้อมูลลงไปในแฟ้มข้อมูล (append data into file) มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแฟ้มข้อมูล ด้วยคำสั่ง fopen( ) ตั้งชื่อแฟ้มข้อมูลพร้อมกับระบุ mode ของการอ่านข้อมูลจากแฟ้มเป็น “a”
2. เขียนคำสั่งเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลเพิ่มลงแฟ้ม โดยสามารถใช้คำสั่ง fprintf( ) บันทึกข้อมูลลงแฟ้มหรือจะใช้คำสั่ง fwrite( ) บันทึกข้อมูลลงแฟ้มก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เขียนโปรแกรม
3. หลังจากบันทึกข้อมูลลงแฟ้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้คำสั่ง fclose( ) ปิดแฟ้มข้อมูลทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการเพิ่มข้อมูลลงแฟ้ม
ในฟังก์ชัน fopen( ) เมื่อใช้ mode “a” เป็นการเปิดแฟ้มข้อมูลสำหรับบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมลงไปในแฟ้มได้ โดยที่ข้อมูลที่เพิ่มเข้าไปจะเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายของแฟ้มเสมอ
ฟังก์ชันที่ใช้ในการเปิดและปิดแฟ้มข้อมูล
การเปิดแฟ้มข้อมูลในภาษา C สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน fopen( ) ส่วนการปิดแฟ้มข้อมูลสามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน fclose( ) ซึ่งมีรายละเอียดการใช้งานแต่ละฟังก์ชัน ดังนี้
1. ฟังก์ชัน fopen( )
ฟังก์ชัน fopen( ) เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการเปิดแฟ้มข้อมูลที่ต้องการได้ โดยที่ fopen เป็นฟังก์ชันมาตรฐานที่อยู่ในแฟ้ม stdio.h
ดังนั้นก่อนที่จะใช้ฟังก์ชันนี้ จะต้องใช้คำสั่ง #include<stdio.h> อยู่ที่ส่วนต้นของโปรแกรมภาษา C และจะต้องประกาศแฟ้มข้อมูลด้วย คำสั่ง FILE ดังนี้
รูปแบบการประกาศแฟ้มข้อมูลและเปิดแฟ้มข้อมูล
FILE *fp;
fp = fopen(filename,mode);
โดยที่ fp คือ ตัวชี้ตำแหน่งข้อมูลในแฟ้ม (file pointer) เมื่อใช้คำสั่ง FILE *fp; มีผลทำให้ตัว file pointer ชี้ไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นของแฟ้มข้อมูลทันที โดยที่ fp นี้จะสามารถชี้ไปยังข้อมูลที่ต้องการในแฟ้มได้โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการบันทึกข้อมูล หรือการอ่านข้อมูลจากแฟ้ม
filename คือ ชื่อแฟ้มข้อมูลที่ตั้งขึ้น โดยต้องเขียนอยู่ภายใต้เครื่องหมาย “…”
mode คือลักษณะของการใช้แฟ้มข้อมูล เช่น เปิดแฟ้มขึ้นมาเพื่อบันทึกข้อมูลหรืออ่านข้อมูลขึ้นมาใช้งาน หรือเพิ่มข้อมูลเข้าไปในแฟ้ม เป็นต้น โดยที่ mode ของการใช้งานแฟ้มข้อมูลมีอยู่หลายชนิดดังตารางที่ 9.2 ต่อไปนี้
โดยปกติแล้วผู้เขียนโปรแกรมเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูลในภาษา C จะมีความต้องประมวลผลแฟ้มข้อมูลอยู่ 3 แบบ คือ
1) การบันทึกข้อมูลในแฟ้มข้อมูล (write data into file)
2) การอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มข้อมูลขึ้นมาใช้งาน (read data from file)
3) การเพิ่มข้อมูลลงไปในแฟ้มข้อมูล (append data into file)
1. การบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล (write data into file) มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแฟ้มข้อมูลด้วยคำสั่ง fopen( ) ตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล (file name) พร้อมกับระบุ mode ของการบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มเป็น “w”
2. บันทึกข้อมูลลงในแฟ้มโดยใช้ฟังก์ชัน putc( ) หรือ fprintf( ) หรือ fwrite( ) บันทึกข้อมูลลงแฟ้ม ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลที่ต้องการบันทึกลงแฟ้มดังนี้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการบันทึกเป็นตัวอักขระตัวเดียว (single character) ให้ฟังก์ชัน putc( ) เพราะสามารถบันทึกตัวอักขระตัวเดียวได้ดี
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการบันทึกเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม (integer) หรือตัวเลขจำนวนทศนิยม (floationg point) หรือสตริง (strings) ให้ใช้ฟังก์ชัน fprintf( ) เพราะสามารถจัดรูปแบบข้อมูลที่บันทึกได้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการบันทึกเป็นข้อมูลแบบโครงสร้าง (structures) หรือตัวแปรชุด (arrays) ให้ใช้ฟังก์ชัน fwrite( ) เพราะสามารถกำหนดเนื้อที่และจำนวนครั้งของการบันทึกข้อมูลได้
3. หลังจากบันทึกข้อมูลลงแฟ้มเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้คำสั่ง fclose( ) ปิดแฟ้มข้อมูลทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อมูลควรระวังเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลลงแฟ้ม
ฟังก์ชัน fopen( ) เมื่อใช้ mode “w” เป็นการเปิดแฟ้มข้อมูลเพื่อบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มเท่านั้น ถ้าเป็นแฟ้มข้อมูลเก่าที่เคยเก็บข้อมูลไว้แล้ว จะมีผลทำให้ข้อมูลทั้งหมดในแฟ้มข้อมูลเก่า ถูกลบทิ้งไปโดยอัตโนมัติ แล้วสร้างแฟ้มข้อมูลใหม่ขึ้นมาแทนที่
2. การอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มข้อมูล (read data from file) มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแฟ้มข้อมูลด้วยคำสั่ง fopen( ) ตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล พร้อมกับระบุ mode ของการบันทึกข้อมูลลงแฟ้มเป็น “r”
2. อ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มโดยสามารถใช้ฟังก์ชัน getc( ) หรือ fscanf( ) หรือ fread( ) อ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลที่ต้องการอ่านขึ้นจากแฟ้มดังนี้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการอ่านขึ้นจากแฟ้มเป็นตัวอักขระตัวเดียวให้ใช้ฟังก์ชัน getc( ) เพราะสามารถอ่านข้อมูลตัวอักขระตัวเดียวได้ดี
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการอ่านขึ้นจากแฟ้มเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม หรือตัวเลขจำนวนทศนิยม หรือสตริงให้ใช้ฟังก์ชัน fscanf( ) เพราะสามารถจัดรูปแบบข้อมูลที่อ่านขึ้นจากแฟ้มได้
- ถ้าข้อมูลที่ต้องการอ่านจากแฟ้ม เป็นข้อมูลแบบโครงสร้าง หรือตัวแปรชุดให้ใช้ฟังก์ชัน fread( ) เพราะสามารถกำหนดขนาดเนื้อที่และจำนวนครั้งของการอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มได้
3. นำข้อมูลที่อ่านขึ้นจากแฟ้มไปประมวลผล เช่น พิมพ์ค่าออกทางจอภาพ หรือนำไปคำนวณก็ได้
4. หลังจากประมวลผลข้อมูลที่ได้จากแฟ้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้คำสั่ง
fclose( ) ปิดแฟ้มข้อมูลทุกครั้งเพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการอ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้ม
ในฟังก์ชัน fopen( ) เมื่อใช้ mode “r” เป็นการเปิดแฟ้มข้อมูล เพื่ออ่านข้อมูลขึ้นจากแฟ้มข้อมูลอย่างเดียว ไม่สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมลงไปในแฟ้มได้
3. การเพิ่มข้อมูลลงไปในแฟ้มข้อมูล (append data into file) มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแฟ้มข้อมูล ด้วยคำสั่ง fopen( ) ตั้งชื่อแฟ้มข้อมูลพร้อมกับระบุ mode ของการอ่านข้อมูลจากแฟ้มเป็น “a”
2. เขียนคำสั่งเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลเพิ่มลงแฟ้ม โดยสามารถใช้คำสั่ง fprintf( ) บันทึกข้อมูลลงแฟ้มหรือจะใช้คำสั่ง fwrite( ) บันทึกข้อมูลลงแฟ้มก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เขียนโปรแกรม
3. หลังจากบันทึกข้อมูลลงแฟ้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้คำสั่ง fclose( ) ปิดแฟ้มข้อมูลทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการเพิ่มข้อมูลลงแฟ้ม
ในฟังก์ชัน fopen( ) เมื่อใช้ mode “a” เป็นการเปิดแฟ้มข้อมูลสำหรับบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมลงไปในแฟ้มได้ โดยที่ข้อมูลที่เพิ่มเข้าไปจะเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายของแฟ้มเสมอ
ฟังก์ชันที่ใช้ในการเปิดและปิดแฟ้มข้อมูล
การเปิดแฟ้มข้อมูลในภาษา C สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน fopen( ) ส่วนการปิดแฟ้มข้อมูลสามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน fclose( ) ซึ่งมีรายละเอียดการใช้งานแต่ละฟังก์ชัน ดังนี้
1. ฟังก์ชัน fopen( )
ฟังก์ชัน fopen( ) เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการเปิดแฟ้มข้อมูลที่ต้องการได้ โดยที่ fopen เป็นฟังก์ชันมาตรฐานที่อยู่ในแฟ้ม stdio.h
ดังนั้นก่อนที่จะใช้ฟังก์ชันนี้ จะต้องใช้คำสั่ง #include<stdio.h> อยู่ที่ส่วนต้นของโปรแกรมภาษา C และจะต้องประกาศแฟ้มข้อมูลด้วย คำสั่ง FILE ดังนี้
รูปแบบการประกาศแฟ้มข้อมูลและเปิดแฟ้มข้อมูล
FILE *fp;
fp = fopen(filename,mode);
โดยที่ fp คือ ตัวชี้ตำแหน่งข้อมูลในแฟ้ม (file pointer) เมื่อใช้คำสั่ง FILE *fp; มีผลทำให้ตัว file pointer ชี้ไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นของแฟ้มข้อมูลทันที โดยที่ fp นี้จะสามารถชี้ไปยังข้อมูลที่ต้องการในแฟ้มได้โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการบันทึกข้อมูล หรือการอ่านข้อมูลจากแฟ้ม
filename คือ ชื่อแฟ้มข้อมูลที่ตั้งขึ้น โดยต้องเขียนอยู่ภายใต้เครื่องหมาย “…”
mode คือลักษณะของการใช้แฟ้มข้อมูล เช่น เปิดแฟ้มขึ้นมาเพื่อบันทึกข้อมูลหรืออ่านข้อมูลขึ้นมาใช้งาน หรือเพิ่มข้อมูลเข้าไปในแฟ้ม เป็นต้น โดยที่ mode ของการใช้งานแฟ้มข้อมูลมีอยู่หลายชนิดดังตารางที่ 9.2 ต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 9.1 แสดงการประกาศแฟ้มข้อมูลและเปิดแฟ้มข้อมูล
FILE *fp;
fp = fopen(“A:test.dat”,”w”);
หมายความว่า เปิดแฟ้มข้อมูลชื่อว่า test.dat อยู่ที่ drive A เพื่อใช้สำหรับบันทึกข้อมูลลงแฟ้ม (write) อย่างเดียว โดยมีตัวแปร fp เป็น file pointer ชี้ตำแหน่งของข้อมูลใน file
ข้อควรจำ ฟังก์ชัน fopen( ) จะให้ค่า file pointer (fp) เท่ากับ NULL เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการเปิดไฟล์ หรือไม่สามารถเปิดไฟล์ที่ระบุไว้ได้ ในกรณีที่สามารถเปิดแฟ้มข้อมูลได้สำเร็จจะให้ค่า file pointer (fp) ไม่เท่ากับ NULL
ตัวอย่างที่ 9.2 แสดงการประกาศแฟ้มข้อมูลและเปิดแฟ้มข้อมูลพร้อมกับตรวจสอบการเปิดแฟ้ม
FILE *fp;
If((fp=fopen(“A:test.dat”,”w”))==NULL)
{
printf(“Error in open file”);
exit(1);
}
จากตัวอย่างคำสั่งข้างต้น เราสามารถนำไปใช้งานในโปรแกรมเพื่อตรวจสอบการเปิดแฟ้มข้อมูลได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าเปิดแฟ้มไม่สำเร็จจะพิมพ์ข้อความว่า “Error in open file” ออกทางจอภาพแล้วออกจากโปรแกรมด้วยคำสั่ง exit(1); ในทางตรงกันข้ามถ้าเปิดแฟ้มข้อมูลได้สำเร็จ จะไม่มีข้อความดังกล่าวข้างต้นและโปรแกรมยังสามารถทำงานต่อไปได้
2. ฟังก์ชัน fclose( )
ฟังก์ชัน fclose( ) เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการปิดแฟ้มข้อมูลเมื่อใช้งานแฟ้มข้อมูลเสร็จแล้ว เช่น เมื่อสิ้นสุดการบันทึก หรืออ่านข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลใดจะต้องปิดแฟ้มข้อมูลนั้น เพื่อทำให้ข้อมูลที่ค้างอยู่ใน Buffer ของหน่วยความจำของเครื่อง ถูกนำไปเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล แต่ถ้าเราลืมใช้คำสั่ง fclose( ) เมื่อสิ้นสุดการทำงานของโปรแกรม ภาษา C จะปิดแฟ้มข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนโปรแกรมควรใช้ fclose( ) ทุกครั้งที่ไม่ใช้แฟ้มข้อมูลแล้วเพื่อสร้างลักษณะนิสัยที่ดีในการใช้งานแฟ้มข้อมูล
รูปแบบการปิดแฟ้มข้อมูล
fclose(file pointer);
ตัวอย่างที่ 9.3 แสดงการปิดแฟ้มข้อมูล
fclose(fptr); โดยที่ fptr เป็น file pointer ของแฟ้มข้อมูลที่ต้องการปิด
ข้อควรจำ ฟังก์ชัน fclose( ) จะให้ค่าเท่ากับศูนย์ (NULL) เมื่อปิดไฟล์ได้สำเร็จ
FILE *fp;
fp = fopen(“A:test.dat”,”w”);
หมายความว่า เปิดแฟ้มข้อมูลชื่อว่า test.dat อยู่ที่ drive A เพื่อใช้สำหรับบันทึกข้อมูลลงแฟ้ม (write) อย่างเดียว โดยมีตัวแปร fp เป็น file pointer ชี้ตำแหน่งของข้อมูลใน file
ข้อควรจำ ฟังก์ชัน fopen( ) จะให้ค่า file pointer (fp) เท่ากับ NULL เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการเปิดไฟล์ หรือไม่สามารถเปิดไฟล์ที่ระบุไว้ได้ ในกรณีที่สามารถเปิดแฟ้มข้อมูลได้สำเร็จจะให้ค่า file pointer (fp) ไม่เท่ากับ NULL
ตัวอย่างที่ 9.2 แสดงการประกาศแฟ้มข้อมูลและเปิดแฟ้มข้อมูลพร้อมกับตรวจสอบการเปิดแฟ้ม
FILE *fp;
If((fp=fopen(“A:test.dat”,”w”))==NULL)
{
printf(“Error in open file”);
exit(1);
}
จากตัวอย่างคำสั่งข้างต้น เราสามารถนำไปใช้งานในโปรแกรมเพื่อตรวจสอบการเปิดแฟ้มข้อมูลได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าเปิดแฟ้มไม่สำเร็จจะพิมพ์ข้อความว่า “Error in open file” ออกทางจอภาพแล้วออกจากโปรแกรมด้วยคำสั่ง exit(1); ในทางตรงกันข้ามถ้าเปิดแฟ้มข้อมูลได้สำเร็จ จะไม่มีข้อความดังกล่าวข้างต้นและโปรแกรมยังสามารถทำงานต่อไปได้
2. ฟังก์ชัน fclose( )
ฟังก์ชัน fclose( ) เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการปิดแฟ้มข้อมูลเมื่อใช้งานแฟ้มข้อมูลเสร็จแล้ว เช่น เมื่อสิ้นสุดการบันทึก หรืออ่านข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลใดจะต้องปิดแฟ้มข้อมูลนั้น เพื่อทำให้ข้อมูลที่ค้างอยู่ใน Buffer ของหน่วยความจำของเครื่อง ถูกนำไปเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล แต่ถ้าเราลืมใช้คำสั่ง fclose( ) เมื่อสิ้นสุดการทำงานของโปรแกรม ภาษา C จะปิดแฟ้มข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนโปรแกรมควรใช้ fclose( ) ทุกครั้งที่ไม่ใช้แฟ้มข้อมูลแล้วเพื่อสร้างลักษณะนิสัยที่ดีในการใช้งานแฟ้มข้อมูล
รูปแบบการปิดแฟ้มข้อมูล
fclose(file pointer);
ตัวอย่างที่ 9.3 แสดงการปิดแฟ้มข้อมูล
fclose(fptr); โดยที่ fptr เป็น file pointer ของแฟ้มข้อมูลที่ต้องการปิด
ข้อควรจำ ฟังก์ชัน fclose( ) จะให้ค่าเท่ากับศูนย์ (NULL) เมื่อปิดไฟล์ได้สำเร็จ